สินค้ารวม : 0 บาท ไปที่ตะกร้าสินค้า

โปรโมชั่น : ยอด 650 บาท ฟรีค่าจัดส่ง (ยกเว้นกล่อง)

5 แพลตฟอร์มที่คนไทยใช้ ซื้อ-ขาย ทางออนไลน์มากที่สุด

Highlight
: สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มออนไลน์แต่ละแอปฯ แอปไหนที่คนไทยใช้งานมากที่สุดในปี 2563

      ทุกวันนี้ธุรกิจ E-Commerce ในบ้านเราก็เติบโตและกำเนิดขึ้นใหม่มากมาย หรือ การค้าขายในรูปแบบพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วไป ก็เติบโตขึ้นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ในสถานการณ์ปัจจุบันผมก็จะบอกวนไปวนมาแบบนี้แหละ เพราะเจ้า COVID-19 ตัวร้ายนี่ มันทำให้ผู้คนต้องออกมาทำงานเสริม ขายของออนไลน์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภท เสื้อผ้า มือ1 มือ2 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ราคาพุ่งพวด รวมถึง เครื่องสำอางต่างๆ ซึ่งวันนี้เราก็จะมาดูว่า แพลตฟอร์มโซเชี่ยลแอปฯ อันไหนที่คนไทยใช้งานมากที่สุด ผ่านรายงานผลประจำปี 2563 ของ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่)



แพลตฟอร์มออนไลน์ที่คนไทยใช้ซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุด

      1. Shopee : คิดเป็น 91.0 % การเป็นที่ 1 ของ Shopee เพราะเปิดตลาดมาได้ดีกว่าเพื่อนในเรื่องของการซื้อขายที่มีการการันตียืนยันรับสินค้าก่อนที่จะกดชำระเงิน และเป็นแพลตฟอร์มที่ในช่วงแรกแจก โค้ดส่วนลด แจก Coin ลดราคาสินค้าเพียบ แต่ตัดมาปัจจุบันแทบไม่เคยเหลือถึงมือ ฮ่าๆ


      2. Lazada : คิดเป็น 72.9 % เป็นที่ 2 แต่ไม่เคยเป็นรองใคร เป็นแพลตฟอร์มที่เทียบตีคู่มาพร้อมกับ Shopee แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ ในเรื่องของการจัดแจงบนแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเรื่องส่วนลด การขนส่งต่างๆ


      3. Facebook : คิดเป็น 55.1 % แพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยม อย่าง Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใช้งานได้ง่าย ในทุกเพศทุกวัย ซื้อขายกันได้ง่าย เข้าถึงได้ง่าย แต่ก็ต้องแลกมากับการที่ไม่มีการันตีที่จะได้รับสินค้าที่ถูกต้องในกับบุคคลที่สร้างการขายบน Facebook Marketplace นั้นเอง


      4. Instagram : คิดเป็น 42.1 % แพลตฟอร์มโซเชียลที่เน้นรูปภาพเป็นพิเศษ และสามารถค้นหาสิ่งของที่ต้องการซื้อได้ตาม #Hashtag ต่างๆ เช่น #ของขวัญ #เสื้อผ้า #กางเกง #กระเป๋า ฯลฯ แต่ละร้านจะจัดแจงในส่วนของ Hashtag เอาไว้ สามารถเริ่ม แฮชแท็กใหม่แบบชื่อร้านของเราต่อด้วยชื่อสินค้าจะทำให้ลูกค้าไปเจอสินค้าของเราแต่ละหมวดได้รวดเร็วมากที่สุด


      5. Line : คิดเป็น 41.6 % แพลตฟอร์มโซเชียล อย่าง Line นิยมซื้อแบบคุยผ่านแอดมิน หรือ Bot ที่แต่ละบริษัทสร้างเป็น Official Account แล้วเท่านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้นั้นเอง


      *ในส่วนของแพลตฟอร์มในการซื้อสินค้าของคนไทย คิดเป็น Kaidee 6.6 %, LnwSHOP 6.3 %, Weloveshopping 3.3 %, O Shopping 2.4 % และ ThailandPostmart 1.1 % ตามลำดับครับ



แพลตฟอร์มออนไลน์ที่คนไทยใช้ขายสินค้าออนไลน์มากที่สุด

      1. Facebook : คิดเป็น 64.7 % เดี๋ยวนี้ไม่ว่าใครอยากจะขายอะไร ก็สามารถลงขายของได้ง่ายดาย บน Facebook Marketplace แต่ถ้าหากเป็นร้านค้าหรือธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะขายสินค้าได้ไม่ตรงตามเป้าหมายในหลายๆร้าน เพราะจะต้องคำนึงถึงการโฆษณา การเข้าถึงโพสต์ของผู้ใช้งาน และในอีกหลายปัจจัย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าเราทำรูป และข้อความได้โดนใจตรงกลุ่มเป้าหมายของเราหรือป่าว


      2. Shopee : คิดเป็น 47.5 % แพลตฟอร์มยักใหญ่ ที่เด่นดังในเรื่องการซื้อขายสินค้า โดยเฉพาะระบบหลังบ้านที่ดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็ต้องแลกมากับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง เพราะเพียงคุณตอบลูกค้าช้า ส่งของช้า ได้รีวิวน้อยก็อาจทำให้ร้านของคุณไม่ได้ร่วมแคมเปญลดแลกแจกแถมในบางรายการได้


      3. Instagram : คิดเป็น 40.8 % อย่างที่บอกไป แพลตฟอร์มเน้นรูปภาพแบบนี้ ต้องสู้กันด้วยเทคนิคการถ่ายภาพและการจัดเรียงรูปภาพ ที่มีความหลากหลายและดูเป็นระเบียบ รวมถึงการเข้าถึงสินค้าแต่ละรายการได้ง่ายมากน้อยแค่ไหน เพราะการโพสต์รูปแบบสาธารณะและใส่ #แฮชแท็ก ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายนั้น รูปสินค้าของเราก็จะไปปรากฏในแท็กนั้นๆ และออกสู่สาธารณะได้ง่ายถ้ามีผู้ใช้งานให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก


      4. Line : คิดเป็น 39.4 % แพลตฟอร์มโซเชียล ที่ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสาร ซื้อขายสินค้าที่ดีอย่างนึง แทนการแชทคุยผ่าน Facebook หรือ Instagram เพราะ Line สามารถจัดตกแต่งแชทแยกย่อย อันไหนลูกค้า อันไหนเพื่อน หรือถ้าหากเป็นแบบ Official Account ก็สามารถใช้ตัวช่วยจากเว็บไซต์ที่ช่วยจัดแจง แชทได้ของลูกค้าได้ เช่น Page365 ที่เราเองก็ใช้งานอยู่ ซึ่งมีผลดีมากมาย ทั้งเก็บข้อมูลที่อยู่ลูกค้า หมายเหตุต่างๆ รวมถึงการดึงข้อมูลแชทจาก Facebook และ Line ได้พร้อมกันทำให้ตอบแชทลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว


      5. Lazada : คิดเป็น 29.4 % โดยส่วนตัวแล้ว แพลตฟอร์มการขายสินค้า อย่าง Lazada ระบบหลังบ้านยังไม่ได้ดีเท่า Shopee และการเป็นสินค้าประเภทแนะนำยังทำได้ยาก ยิ่งการนัดให้รถเข้ามารับก็ทำได้ยุ่งยากกว่ามาก ทำให้หลายๆร้าน โดนลดคะแนนไปทั้งๆที่ไม่รู้ที่มาที่ไป รวมถึงขอบเขตเวลาในการนำส่งพัสดุที่แตกต่างและไม่สามารถเลือกขนส่งได้นั้นเอง


      *ในส่วนของแพลตฟอร์มในการขายสินค้าของคนไทย คิดเป็น Kaidee 12.6 %, LnwSHOP 3.9 %, Weloveshopping 2.5 %, O Shopping 1.7 % และ Thailand Mall 1.4 % ตามลำดับครับ


      ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ (www.etda.or.th)



• แจก : คูปองส่วนลด 7% CODE : MAY64 (นำไปสั่งซื้อบนเว็บไซต์)
• โปรโมชั่นพิเศษ : ไม่ว่าสั่งทางเว็บไซต์หรือสั่งทาง Chat ก็รับส่วนลด 7% 1 ครั้งทุกๆเดือน ทัก Line เรามาขอสิทธิ์ได้เลย
• ตารางรวมราคาสินค้า : (ดูตารางราคา) เราใช้ 🧡 บริการ :)
May 22, 2021, 1:10 p.m.
Share : Facebook Google

ซองไปรษณีย์พลาสติก กล่องพัสดุ ถุงแก้วพลาสติก และอุปกรณ์แพ็คกิ้งอื่นๆ ในราคาส่ง