ทำไมซองไปรษณีย์พลาสติกย่อยสลายได้ จึงมีราคาสูงกว่าแบบปกติ

Highlight
: เรามาหาคำตอบกันว่านามสกุลเว็บไซต์แต่ละแบบใช้ในทางไหนกันบ้าง

ปัจจุบันกระแสการใช้สินค้าพลาสติกแบบย่อยสลายได้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเทรนการใช้ซองไปรษณีย์พลาสติกแบบย่อยสลายได้ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ซึ่งแม้แต่ทางร้านเราก็มีลูกค้าหลายๆท่านได้มาสอบถามเพื่อซื้อซองพลาสติกแบบดังกล่าว แต่เมื่อเจอราคาแล้ว ก็ยังมีหลายๆท่านหันกลับไปใช้แบบปกติ เพราะด้วยราคาที่สูงกว่ามากๆ จึงทำให้ปัจจุบันการใช้งานจริง ยังไม่สามารถทดแทนซองแบบธรรมดาได้

โดยในบทความวันนี้ผมจะอธิบายถึงเหตุที่ว่าทำไมซองพัสดุแบบย่อยสลายได้ถึงมีราคาสูง ไปดูกันเลยครับผม

1.) ราคาวัสดุตั้งต้นที่สูง

อธิบาย : หากเปรียบเทียบราคาเม็ดพลาสติกแบบธรรมดากับเม็ดพลาสติกแบบย่อยสลายได้มีจะมีราคาสูงกว่าเกือบ 3 เท่าตัวสำหรับเม็ดย่อยสลายได้ที่คุณภาพดี ซึ่งนี้เป็นหนึ่งในต้นเหตุหลักที่ทำให้ซองไปรษณีย์พลาสติกแบบย่อยสลายได้มีราคาสูงกว่าแบบปกติมาก

2.) ขบวนการผลิตที่ต้นทุนสูง

อธิบาย : แน่นอนเม็ดพลาสติกที่ย่อยสลายได้ส่วนใหญ่ที่นิยมกันคือผลิตมาจากพืชชนิดต่างๆ เช่นข้าวโพดเป็นต้น ซึ่งหากเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตกับเม็ดพลาสติกแบบธรรมดาแล้ว โดยในเทคโนโลยีปัจจุบันจะมีราคาที่อยู่ในระดับที่อยู่ในจุดที่สูงมากๆ และนอกจากนั้นในการเป่าถุงพลาสติกแบบใช้เม็ดพลาสติกแบบ ย่อยสลายได้จะมีส่วนผสมและขั้นตอนการผลิตที่สูงกว่า จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาซองไปรษณ์แบบย่อยสลายได้มีราคาสูงมากๆ เมื่อเทียบกับแบบปกติแล้ว

3.) ตลาดการแข่งขันที่ขนาดเล็ก

อธิบาย : จากข้อมูลในปัจจุบันอัตราส่วนการใช้พลาสติกแบบย่อยสลายได้ มีเพียงแค่ 5% จากทั้งหมด ซึ่งตลาดที่มีขนาดเล็กจะทำให้ไม่เกิดการแข่งขันที่สมบูรณ์ และจะยังไม่เกิดการแข่งขันด้านราคากันอย่างดุเดือดมากนัก จึงเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ ราคาเม็ดพลาสติกอบบดังกล่าวยังราคาแพง

- จบแล้ว -

FYI : แม้ซองไปรษณีย์พลาสติกแบบย่อยสลายได้จะดูเหมือนเป็นทางออกในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ในความจริงแล้ว ยังมีข้อถกเถียงอยู่ในแวดวงวิชาการอยู่ โดยมีบางท่านก็ให้ความเห็นว่า จะทำให้ขบวนการ Recycle มีปัญหาได้ หรือบางท่านก็บอกว่า การ ผลิตเม็ดพลาสติกประเภทนี้ก็คือการถางป่าเพื่อทำอุตสาหกรรมการเกษตรซึ่งไม่ได้เป็นการลด Carbon Footprint ลงได้เลย ซึ่งในมุมมองของผมเองถ้าในระยะเทคโนโลยีด้านการผลิตเม็ดพลาสติกจากพืชดีกว่านี้ และทำให้ราคาต่ำกว่านี้ได้ สิ่งนี้อาจจะมีโยชน์จริงๆต่อโลกของเราได้ ในเรื่องของลดขยะตามธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังคงต้องใช้เวลานับ 10 ปี